King Faisal Specialist Hospital & Research Centre เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสาขาสุขภาพในซาอุดิอาระเบีย

ริยาด ซาอุดีอาระเบีย , May 11, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) -- Harvard University -- หลังจากผ่านไปเป็นเวลาแปดปีตั้งแต่เริ่มแผน Vision 2030 ซาอุดีอาระเบียก็ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและการเข้าถึงการดูแลที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความสามารถ ได้นำไปสู่ความก้าวหน้าในการปฏิวัติการให้บริการดูแลผู้ป่วยและยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในท้องถิ่น ความพยายามเหล่านี้ทำให้อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น อัตราการตายลดลง และปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมทั่วราชอาณาจักรอย่างเห็นได้ชัด
King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC) เป็นศูนย์กลางของความสำเร็จเหล่านี้ โดยองค์กรดังกล่าวมีชื่อเสียงในด้านการดูแลและการรักษาเฉพาะทางในสาขาสำคัญ ๆ เช่น เนื้องอกวิทยา โรคหัวใจ การปลูกถ่ายอวัยวะ และพันธุศาสตร์ โดยได้องค์กรมีตำแหน่งเป็นผู้นำในการดูแลผู้ป่วยเฉพาะทาง โดยรับหน้าที่ในการนำพาผู้คนมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสและมีสุขภาพดียิ่งขึ้นของราชอาณาจักร โรงพยาบาลแห่งนี้กำลังปรับโฉมภูมิทัศน์ท้องถิ่นและกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพและการเข้าถึง โดยมีความมุ่งมั่นในการบุกเบิกโครงการริเริ่มด้านสุขภาพดิจิทัล โปรแกรมการศึกษาที่ครอบคลุม และความพยายามในการวิจัยใหม่ ๆ
KFSH&RC อยู่ในแนวหน้าของการบูรณาการด้านสุขภาพดิจิทัลในหมู่พันธมิตรในท้องถิ่นในยุคที่ถูกกำหนดโดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และด้วยการผลักดันของราชอาณาจักรไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลโดยใช้ประโยชน์จากบริการการแพทย์ทางไกลที่ล้ำสมัย การให้คำปรึกษาเสมือนจริง และเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ANFAL AI System ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของผู้ป่วยผ่านข้อมูลเชิงลึกเชิงคาดการณ์และการดูแลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเพื่อความพึงพอใจของผู้ป่วย
โครงการริเริ่มด้านสุขภาพดิจิทัลของ KFSH&RC ได้มีการขยายไปสู่การจัดการภัยคุกคามด้านสุขภาพในวงกว้างผ่านเทคโนโลยี เช่น การถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์และจุลลินทรีย์ทั้งจีโนม (WGS) และการบำบัดด้วยการฉายรังสีขั้นสูง นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังเป็นผู้บุกเบิกการปลูกถ่ายอวัยวะด้วยการปลูกถ่ายตับด้วยหุ่นยนต์เต็มรูปแบบครั้งแรกของโลก และแนะนำนวัตกรรมต่าง ๆ ให้แก่ภูมิภาค เช่น Harmony Transcatheter Pulmonary Valve (TPV) ซึ่งช่วยเพิ่มการฟื้นตัวและประสบการณ์ของผู้ป่วย เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในแผนการรักษาเฉพาะบุคคล และปรับปรุงความแม่นยำและความรวดเร็วของการวินิจฉัยทางการแพทย์ ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยและโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการเปลี่ยนแปลงในสาขาสุขภาพ
KFSH&RC ยังคงผลักดันขอบเขตของการวิจัยทางการแพทย์เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสุขภาพที่เร่งด่วน และมีส่วนสนับสนุนภูมิทัศน์ด้านสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบีย ด้วยการค้นพบเช่นยีน PfAP2-MRP ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาโรคมาลาเรียและการจำแนกแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ Riyadhensis การค้นพบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย แต่ยังอำนวยความสะดวกในการแทรกแซงตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการสนับสนุนผู้ป่วยเป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ระดับชาติในการลดความชุกของโรคเรื้อรัง
ความพยายามที่ครอบคลุมเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการริเริ่มด้านการศึกษาที่แข็งแกร่งของ KFSH&RC ซึ่งช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์รุ่นต่อไปผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมและความร่วมมือระหว่างประเทศ
โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับการยกย่องจาก 'Brand Finance' ในปี 2024 ให้เป็นแบรนด์การดูแลสุขภาพที่มีมูลค่ามากที่สุดในซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยอยู่อันดับที่ 9 ในซาอุดีอาระเบียและอันดับที่ 28 ในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ KFSH&RC ยังโดดเด่นในฐานะโรงพยาบาลแห่งเดียวในโลกที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของประเทศ
เกี่ยวกับ King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC):
King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC) ถือเป็นสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำในตะวันออกกลาง โดยมีเจตจำนงที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกรายที่กำลังต้องการการรักษาพยาบาลเฉพาะทาง โรงพยาบาลแห่งนี้มีประวัติอันยาวนานในการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ ประสาทวิทยาศาสตร์ และพันธุศาสตร์
ในปี 2024 "Brand Finance" ได้จัดอันดับ King Faisal Specialist Hospital & Research Centre ให้เป็นศูนย์วิชาการทางการแพทย์ชั้นนำในตะวันออกกลางและแอฟริกา และติด 20 อันดับแรกของโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน นอกจากนี้ ในปี 2024 องค์กรยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำระดับโลกจากนิตยสาร Newsweek อีกด้วย
พระราชกฤษฎีกาได้ออกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2021 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Saudi Vision 2030 เพื่อเปลี่ยนโรงพยาบาลให้เป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ซึ่งปูทางไปสู่โครงการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมโดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุความเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการดูแลสุขภาพ ผ่านความเป็นเลิศและนวัตกรรม
ข้อมูลการติดต่อ
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
คุณ Essam Al-Zahrani หัวหน้าฝ่ายสื่อ 0555254429
คุณ Abdullah Al-Aown เจ้าหน้าที่ประสานงานฝ่ายสื่อ 0556294232
สามารถดูรูปประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/003e76ab-3d93-42d4-9edf-5e652a14c559
Legal Disclaimer:
EIN Presswire provides this news content "as is" without warranty of any kind. We do not accept any responsibility or liability for the accuracy, content, images, videos, licenses, completeness, legality, or reliability of the information contained in this article. If you have any complaints or copyright issues related to this article, kindly contact the author above.
