ความไม่แน่นอนทางการเมืองท้าทายเส้นทางเติบโตอินโดนีเซีย ตลาดเร่งประเมินความเสี่ยงใหม่
EBC Financial Group ชี้ว่า การเติบโตของ GDP อินโดนีเซีย 5.12% กำลังเผชิญแรงกดดันจากความไม่สงบ และนักลงทุนยังคงระมัดระวัง
INDONESIA, September 25, 2025 /EINPresswire.com/ -- เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัว 5.12% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตอกย้ำบทบาทสำคัญในฐานะเครื่องยนต์การเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ ตั้งแต่การประท้วงครั้งใหญ่ ความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ถดถอย ไปจนถึงแรงกดดันต่อค่าเงินรูเปียห์ ได้สร้างความกังวลต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงสู่ระดับประมาณ 16,500 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีหุ้นจาการ์ตาลดลงมากกว่า 3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับขึ้นสู่ 6.335% สะท้อนถึงความต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นของนักลงทุนเพื่อถือครองสินทรัพย์อินโดนีเซีย แม้ทางการอินโดนีเซีย รวมถึงนายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีเศรษฐกิจหลัก และธนาคารกลางอินโดนีเซีย ย้ำว่าพื้นฐานเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง แต่การปลดนางศรี มุลยานี อินดราวาตี ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีการคลัง และเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างการประท้วงก็ยังคงกดดันความเชื่อมั่นของตลาด
ซามูเอล เฮิร์ตซ์ หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ EBC Financial Group ให้ความเห็นว่า “โครงสร้างการเติบโตระยะยาวของอินโดนีเซียยังคงแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจากโครงสร้างประชากรที่เอื้ออำนวย การเร่งตัวของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลก ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตและการพัฒนาตลาดในอนาคต”
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดในปัจจุบันสะท้อนถึงความซับซ้อนระหว่างปัจจัยมหภาคและพลวัตด้านความเชื่อมั่นนักลงทุน ในภาวะที่ความไม่แน่นอนสูง ผู้เข้าร่วมตลาดมักเลือกหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนชั่วคราวระหว่างมูลค่าสินทรัพย์และพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง”
ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งยังคงค้ำจุนเศรษฐกิจอินโดนีเซีย
นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีเศรษฐกิจหลักของอินโดนีเซีย ย้ำถึงศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงของประเทศ โดยชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก East Asia Forum มองว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นล่าสุดถือเป็น “สัญญาณเตือน” ที่สะท้อนความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาล
ด้านนักวิเคราะห์จาก EBC Financial Group ระบุว่า นักลงทุนกำลังถอนตัวออกจากสินทรัพย์อินโดนีเซีย เนื่องจากค่าพรีเมียมความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านผู้นำ โดยเฉพาะกรณีการพ้นตำแหน่งของนางศรี มุลยานี อดีตรัฐมนตรีการคลัง ซึ่งยิ่งตอกย้ำความกังวลต่อความต่อเนื่องของนโยบาย ทั้งนี้ การเทขายที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงของนักลงทุนในภาวะตลาดโลกที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง มากกว่าจะเป็นสัญญาณของความอ่อนแอในปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย
ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจเกินกว่าตลาดการเงิน
ความไม่สงบทางสังคมที่ปะทุขึ้นทั่วอินโดนีเซียเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจจริง โดยสมาคมผู้ค้าปลีกเปิดเผยความเสียหายที่มีมูลค่ากว่า 500 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 30.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะเดียวกัน ความปั่นป่วนด้านพาณิชย์ดิจิทัลได้กระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศอย่างเห็นได้ชัด
การระงับฟีเจอร์การขายผ่าน TikTok Live ยิ่งซ้ำเติมผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs ที่พึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซในการสร้างรายได้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้กลายเป็นช่องทางรายได้สำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้ SMEs เข้าถึงฐานผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 185 ล้านคนทั่วประเทศ
ซามูเอล เฮิร์ตซ์ หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ EBC Financial Group กล่าวว่า “เสถียรภาพทางสังคมเป็นปัจจัยที่มักถูกประเมินต่ำเกินไปในการตีมูลค่าตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ภาคค้าปลีกและสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังเผชิญแรงกดดันต่อผลประกอบการในทันที แม้ปัจจัยมหภาคโดยรวมยังคงแข็งแรงก็ตาม”
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ EBC ระบุว่า ความไม่สงบครั้งนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค โดยแม้ตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคยังรองรับแรงกระแทกได้ในระยะสั้น แต่หากความตึงเครียดยืดเยื้อ อาจทำให้นักลงทุนในหุ้นกลุ่มผู้บริโภคหันไปใช้กลยุทธ์เชิงป้องกัน และปรับพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นอินโดนีเซียใหม่
การตอบสนองเชิงนโยบายถูกจับตาอย่างใกล้ชิด
ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังเฝ้าติดตามท่าทีเชิงเด็ดขาดของรัฐบาลอินโดนีเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยการฟื้นความเชื่อมั่นจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาการเมืองและความมั่นคง ประธานาธิบดีประโบโวและคณะทำงานได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูความสงบและจัดการกับความไม่พอใจของประชาชน โดยรวมถึงการทบทวนสิทธิพิเศษของฝ่ายนิติบัญญัติ การปราบปรามความไม่สงบ และการอัดฉีดงบประมาณ 200 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 12.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ประสิทธิผลของมาตรการเหล่านี้ยังต้องรอดูต่อไป
ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะเข้ามารักษาเสถียรภาพของตลาดผ่านการแทรกแซงและมาตรการด้านสภาพคล่อง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนว่าความผันผวนจะอยู่ภายใต้การควบคุม
สำหรับนักลงทุนทั่วโลก ความปั่นป่วนในอินโดนีเซียสะท้อนพลวัตที่กว้างขึ้นในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งปัจจัยด้านการเมือง ความน่าเชื่อถือเชิงนโยบาย และธรรมาภิบาล มีน้ำหนักไม่แพ้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ซามูเอล เฮิร์ตซ์ หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ EBC Financial Group ให้ความเห็นว่า “แม้ตัวเลข GDP ของอินโดนีเซียยังคงแข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงบรรยากาศความเสี่ยงและการตัดสินใจลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ความเชื่อมั่นของตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว หากแต่เสถียรภาพทางสังคมและการเมืองก็เป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทางการลงทุนในตลาดเกิดใหม่เช่นเดียวกัน”
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้
สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เยี่ยมชม www.ebc.com.
###
เกี่ยวกับ EBC Financial Group
ก่อตั้งขึ้นที่ลอนดอน EBC Financial Group (EBC) เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโบรกเกอร์การเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ ผ่านหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในหลายเขตอำนาจทางการเงินสำคัญ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หมู่เกาะเคย์แมน มอริเชียส และประเทศอื่น ๆ EBC ช่วยให้นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนมืออาชีพ และสถาบัน สามารถเข้าถึงตลาดโลกและโอกาสการลงทุนต่าง ๆ ทั้งสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (CFDs) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
EBC ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในกว่า 100 ประเทศ และได้รับรางวัลระดับโลกหลายครั้ง รวมถึงการได้รับการยกย่องต่อเนื่องจาก World Finance ในฐานะหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดของโลก ด้วยตำแหน่งเช่น Best Trading Platform และ Most Trusted Broker ด้วยความมั่นคงด้านกฎระเบียบและความโปร่งใส EBC ยังถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำที่นักลงทุนเชื่อถือ สามารถมอบโซลูชันการเทรดที่ปลอดภัย นวัตกรรม และให้ความสำคัญกับลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันสูง
บริษัทในเครือของ EBC ทั้งหมดมีใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเขตอำนาจของตน ได้แก่ EBC Financial Group (UK) Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Conduct Authority (FCA) สหราชอาณาจักร; EBC Financial Group (Cayman) Limited อยู่ภายใต้การกำกับของ Cayman Islands Monetary Authority (CIMA); EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd และ EBC Asset Management Pty Ltd อยู่ภายใต้การกำกับของ Australian Securities and Investments Commission (ASIC); และ EBC Financial (MU) Ltd อยู่ภายใต้การอนุญาตและกำกับโดย Financial Services Commission Mauritius (FSC)
หัวใจสำคัญของ EBC คือทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปีในสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ผ่านรอบเศรษฐกิจสำคัญตั้งแต่ Plaza Accord วิกฤตฟรังก์สวิส 2015 ไปจนถึงความปั่นป่วนของตลาดในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เรามุ่งเน้นสร้างวัฒนธรรมที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้า เพื่อให้ทุกความสัมพันธ์กับนักลงทุนได้รับการดูแลอย่างจริงจังและมืออาชีพ
EBC เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของสโมสร FC Barcelona และยังสร้างพันธมิตรที่มีผลกระทบเชิงสังคมเพื่อสนับสนุนชุมชน ผ่านโครงการ United to Beat Malaria ของมูลนิธิสหประชาชาติ, ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และพันธมิตรอื่น ๆ ในด้านสุขภาพโลก เศรษฐศาสตร์ การศึกษา และความยั่งยืน
Michelle Siow
EBC Financial Group
michelle.siow@ebc.com
Visit us on social media:
LinkedIn
Instagram
Facebook
YouTube
X
Other
1 https://www.ebc.com/?utm_source=PR&utm_medium=MKTPW&utm_campaign=PR&utm_content=TariffASEAN
