ECB คงดอกเบี้ย จับตาความตึงเครียดการค้าโลกและความผันผวนของตลาด
เงินเฟ้อใกล้เป้าหมายแต่ความผันผวนเพิ่มขึ้น EBC Financial Group ชี้การพักดอกเบี้ยของ ECB คือจุดพลิกผันสำคัญในนโยบายการเงินยุโรป
DC, UNITED STATES, July 31, 2025 /EINPresswire.com/ -- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยหยุดพักการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างกว้างขวางจากตลาดสะท้อนทั้งความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนและความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นต่อปัจจัยลบจากภายนอก โดยเฉพาะความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงกับสหรัฐฯ และความเสี่ยงเงินฝืดจากภูมิภาคเอเชีย
อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์หลักของ ECB ยังคงอยู่ที่ 2.15% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉียดขอบยังคงอยู่ที่ 2.00% และ 2.40% ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของตลาดโดยรวม
นี่เป็นการหยุดพักครั้งแรกหลังจากลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องถึงแปดครั้งตั้งแต่ปลายปี 2024 เมื่อ ECB เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อตอบสนองต่อเงินเฟ้อลดลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปราะบางในกลุ่มประเทศสมาชิก 20 ประเทศ
หยุดพักนโยบายท่ามกลางความไม่แน่นอน
ในแถลงการณ์ ธนาคารกลางยุโรประบุว่า แนวโน้มเงินเฟ้อที่มั่นคงและสัญญาณของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจหยุดพัก อัตราเงินเฟ้อประจำปีของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระยะกลางของ ECB ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลง และผลผลิตภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะพบการหยุดนิ่งในเศรษฐกิจหลัก เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม ประธาน ECB คริสติน ลาการ์ด ยังคงแสดงความระมัดระวัง โดยเตือนว่าความเสี่ยงด้านลบยังคงมีอยู่ “งานของเราตอนนี้คือการจับตามองสิ่งที่จะเกิดขึ้น” ลาการ์ดกล่าว โดยอ้างถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีสหรัฐฯ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการสินค้าทั่วโลกที่ชะลอตัว
ด้านเดวิด แบร์เร็ต ซีอีโอของ EBC Financial Group (UK) Ltd. มองว่าการหยุดพักครั้งนี้เป็น “การปรับสมดุลที่จำเป็น” เนื่องจากความซับซ้อนของความมั่นคงทางการเงินและปัจจัยภายนอกที่ก่อความปั่นป่วน
“ECB เลือกใช้ความยืดหยุ่นแทนความเร่งด่วน” แบร์เร็ตกล่าว “ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ธนาคารกลางส่งสัญญาณว่า แม้วิกฤตเงินเฟ้ออาจอยู่เบื้องหลังเราแล้ว แต่วิสัยทัศน์เศรษฐกิจในอนาคตยังคงมีเงื่อนไขสูงและเปิดรับผลกระทบจากนโยบายที่อยู่ไกลเกินกว่ายุโรโซน”
ยูโรพลิกอ่อนค่า! EUR/USD ร่วงหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใสเกินคาด
ในช่วงแรก ตลาดมองการคงดอกเบี้ยของ ECB เป็นสัญญาณของเสถียรภาพ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.1789 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นดังกล่าวกลับพลิกผันอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดในช่วงค่ำของวันเดียวกัน
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการจาก S&P Global เพิ่มขึ้นเกินคาด แม้ภาคการผลิตจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย ปัจจัยร่วมเหล่านี้กระตุ้นการคาดการณ์ใหม่เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเยือนธนาคารกลางสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนต่อมุมมองนโยบายการเงินของเฟด
เมื่อถึงช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์ (EUR/USD) ร่วงลงมากกว่า 0.20% มาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.1749 ขณะที่นักลงทุนเริ่มประเมินทิศทางตลาดใหม่อีกครั้ง
“การกลับทิศของค่าเงิน EUR/USD สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนไหวของตลาดต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เหนือความคาดหมาย” แบร์เร็ตกล่าว พร้อมเสริมว่า แม้ ECB จะอยู่ในช่วงพักนโยบาย แต่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงผันผวนจากทั้งปัจจัยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแรงกดดันทางการเมืองที่ยังไม่จบสิ้น
ความกังวลเงินฝืดและความไม่สมดุลเชิงนโยบาย
นักกลยุทธ์หลายรายเริ่มแสดงความกังวลว่าการหยุดพักของ ECB อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากผู้ส่งออกจากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับภาษีจากสหรัฐฯ ทำให้ยุโรปเสี่ยงกลายเป็นจุดรับสินค้าราคาถูก ซึ่งอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินฝืด ขณะเดียวกัน การลงทุนภาคธุรกิจที่ซบเซาอาจผลักดันให้ ECB ต้องกลับมาลดดอกเบี้ยอีกครั้งภายในเดือนธันวาคม
“ภาวะเงินเฟ้อต่ำกำลังฝังรากในหลายพื้นที่ของยูโรโซนแล้ว” แบร์เร็ตกล่าว “สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลข CPI เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับว่ายุโรปจะปกป้องเศรษฐกิจจากแรงกระเพื่อมภายนอกได้หรือไม่ — และนโยบายการเงินจะยืดหยุ่นพอที่จะตอบสนองได้ทันหรือเปล่า”
แนวโน้ม: ตลาดจับตาสัญญาณนโยบายข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ขณะนี้ตลาดการเงินคาดว่า ECB จะยังคงคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงการประชุมเดือนกันยายน โดยจุดสนใจเริ่มเบนไปที่พัฒนาการระดับโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคลังของสหรัฐฯ มาตรการภาษี และท่าทีของเฟด ซึ่งอาจกดดันให้ ECB ต้องกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายอีกครั้งก่อนสิ้นปี
EBC Financial Group คาดว่าความสนใจของนักลงทุนจะหันไปที่ความผันผวนของค่าเงิน การตั้งราคาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ในขณะที่ธนาคารกลางของยุโรปและสหรัฐฯ กำลังดำเนินนโยบายที่แยกทางกันมากขึ้น
“สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเป้าหมายเงินเฟ้ออีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของความทนทานเชิงเปรียบเทียบระหว่างภูมิภาค” แบร์เร็ตกล่าวสรุป “ECB ดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวังอย่างมีเหตุผล แต่สิ่งที่จะชี้ชะตาทิศทางนโยบายจากนี้คือความรุนแรงและต่อเนื่องของแรงสั่นสะเทือนระดับโลก”
คำเตือน: บทความนี้เป็นความคิดเห็นของ EBC Financial Group และหน่วยงานในเครือทั่วโลก มิใช่คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และฟอเร็กซ์ (FX) มีความเสี่ยงสูงต่อการขาดทุน ซึ่งอาจเกินกว่ามูลค่าการลงทุนเริ่มต้นของท่าน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้
###
เกี่ยวกับ EBC Financial Group
EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้นในย่านการเงินชื่อดังของกรุงลอนดอน เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านบริการนายหน้าซื้อขายทางการเงินและการบริหารสินทรัพย์ โดยมีบริษัทในเครือที่ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในตลาดการเงินสำคัญทั่วโลก อาทิ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หมู่เกาะเคย์แมน มอริเชียส และประเทศอื่น ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนมืออาชีพ และสถาบัน สามารถเข้าถึงการลงทุนในตลาดการเงินระดับโลก ทั้งในกลุ่มสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และดัชนีต่าง ๆ
EBC ได้รับการยอมรับจากหลากหลายรางวัลในระดับนานาชาติ พร้อมยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรมที่เข้มงวด โดยบริษัทในเครือของ EBC ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในแต่ละประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ EBC Financial Group (UK) Limited ซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดยสำนักงานกำกับดูแลการเงินของสหราชอาณาจักร (FCA), EBC Financial Group (Cayman) Limited ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานการเงินหมู่เกาะเคย์แมน (CIMA), EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd และ EBC Asset Management Pty Ltd ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ASIC) และ EBC Financial (MU) Ltd ซึ่งได้รับอนุญาตและควบคุมโดยคณะกรรมการบริการทางการเงินมอริเชียส (FSC)
หัวใจสำคัญของ EBC คือทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการเงินกว่า 40 ปี โดยผ่านการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ข้อตกลง Plaza Accord วิกฤตฟรังก์สวิสในปี 2015 ไปจนถึงความผันผวนในช่วงการระบาดของโควิด-19 EBC ยึดมั่นในวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้ความสัมพันธ์กับนักลงทุนทุกคนได้รับการดูแลด้วยความจริงจังในทุกมิติ
ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา (FC Barcelona) EBC ให้บริการเฉพาะทางแก่ลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย นอกจากนี้ บริษัทยังมีบทบาทในการสนับสนุนโครงการเพื่อสุขภาพระดับโลกผ่านความร่วมมือกับองค์กร United to Beat Malaria อีกทั้งยังสนับสนุนกิจกรรมเผยแพร่ความรู้สาธารณะ "What Economists Really Do" ของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และบทบาทของเศรษฐศาสตร์ต่อประเด็นท้าทายของสังคมในปัจจุบัน
Michelle Siow
EBC Financial Group
michelle.siow@ebc.com
Visit us on social media:
LinkedIn
Instagram
Facebook
YouTube
X
Other
1 https://www.ebc.com/?utm_source=PR&utm_medium=MKTPW&utm_campaign=PR&utm_content=OA88824
